ภาพจาก www.thai-traveller.com/ปราสาทหินบนดินแดนถิ่นกัมพูชา
สวัสดียามเย็นในวันที่ฝนตกค่ะ วันนี้เราจะพาทุกคนไปหลง มนต์ปราสาทบายนกัน หากพูดถึงปราสาทบายน ก็ต้องนึกถึงรอยยิ้มแบบบายน หรืออาจจะนึกถึงปราสาทที่มีรูปหน้าอยู่บนปรางค์ปราสาทที่อยู่รอบทุกทิศทาง จนอาจจะแอบสะดุ้ง เพราะมองไปทางไหนก็เจอแต่รูปหน้าที่กำลังยิ้ม เอาล่ะคะถ้าอยากรู้ว่าปราสาทบายนที่ว่านี้มีอะไรให้หลง ตามมาดูกันเลย
ปราสาทบายนตั้งอยู่ทางทิศเหนือของนครวัด เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
ปราสาทบายนตั้งอยู่ทางทิศเหนือของนครวัด เมืองเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
ก่อนอื่นเรามารู้ประวัติความเป็นมาของปราสาทบายนกัน
ปราสาทบายนเป็นปราสาทหินอยู่ในบริเวณใจกลางของนครธม ปราสาทบายนสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่7 ปีพุทธศตวรรษที่18 เป็นศิลปะแบบบายน ปราสาทถูกสร้างโดยการนำหินมาวางเป็นซ้อนๆกันขึ้นให้เป็นรูปร่าง ที่มีความแปลกดูลี้ลับ ว่ากันว่าในสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่7 เป็นช่วงที่เปลี่ยนแปลงด้านศาสนา จากที่นับถือศาสนาฮินดู เปลี่ยนมาเป็นศาสนาพุทธนิกายมหายาน ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่ารูปหน้าบนปรางค์ปราสาทนั้นจะเป็นพระพักตร์ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร หันหน้าออกไปทั้ง4ทิศ
รูปใบหน้าบนปรางค์ปราสาท ภาพโดย ทัศนียา แก้ววังชัย,2561 |
จากภาพจะเห็นได้ว่าใบหน้ามีการรอยยิ้มประดับอยู่ ซึ่งรอยยิ้มนี้เรียกว่ายิ้มแบบบายนที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตา และความกรุณา
และก่อนที่เราจะเข้าไปถึงตัวปราสาทนั้น ที่ประตูทางเข้าเมืองนครธมก็น่าสนใจไม่แพ้กัน สะพานข้ามน้ำก่อนถึงทางเข้าจะมีรูปประติมากรรมลอยตัวของเทวดาและยักษ์ที่กำลังยื้อยุดฉุดนาคกัน โดยเทวดาอยู่ฝั่งซ้ายทางหางของนาค ส่วนยักษ์อยู่ฝั่งขวาฉุดทางหัวของนาค และจากการยื้อยุดนาคกันนี้ทำให้เกิดการกวนเกษียรสมุทร (การกำเนิดโลกและจักรวาล)
ภาพสะพานที่เทวดาและยักษ์กำลังฉุดนาคทั้งสองข้างทาง ภาพโดย ทัศนียา แก้ววังชัย,2561 |
ซึ่งจุดสะพานนี่แหละที่เราต้องเปลี่ยนรถในการเดินเข้าไปด้านใน เพราะประตูทางเข้ารถคันที่ใหญ่ที่สุดที่จะสามารถผ่านไปได้ มีแค่รถตู้ หรือรถยนต์เท่านั้น รถทัวร์ขนาดใหญ่ไม่สามารถผ่านเข้าไปได้ เนื่องจากพระเจ้าชัยวรมันที่7 ทรงสร้างเมืองพระนครหลวง หรือนครธม ขึ้นเป็นเมืองหลวงใหม่โดยซ้อนทับเมืองพระนครเดิม ที่ถูกจามเข้ามาบุกทำลาย โดยเมืองพระนครหลวงใหม่นี้พระองค์ให้ปราสาทบายนเป็นศูนย์กลางเมือง ดังนั้นในสมัยนั้นจึงสร้างประตูทางเข้าให้มีขนาดเท่ากับช้างที่พระองค์ทรง
ภาพประตูทางเข้า ภาพโดย ทัศนียา แก้ววังชัย,2561 |
เมื่อเราทราบประวัติความเป็นแล้ว จะเห็นได้ว่าปราสาทบายนนั้นมีความสำคัญที่สร้างขึ้นในช่วงที่กำลังเปลี่ยนการนับถือศาสนา อาจกล่าวได้ว่าทำให้เมืองพระนครนั้นกลับมารุ่งเรืองได้อีกครั้ง จากการที่สร้างปราสาทบายนหลังสงครามของยุคเมืองพระนครก่อนหน้านี้ ทำให้ประชาชนหันมาเลื่อมใสศาสนาพุทธ และเหมือนว่ารูปหน้าที่กำลังยิ้มอยู่นี้กำลังสอดส่องความเป็นอยู่ของประชาชนโดยรอบสี่ทิศทาง
บรรยากาศโดยรอบ ภาพโดย ทัศนียา แก้ววังชัย,2561 |
ดังนั้นก้อนหินทุกก้อน ประติมากรรมทุกอย่างมีเรื่องราวที่น่าสนใจ หากมองผ่านภาพ หรืออ่านเรื่องราวต่างๆว่าน่าสนใจแล้ว การได้ไปสถานที่จริงจะทำให้คุณรู้สึกชอบใจแน่นอน การเข้าชมหรือการเดินทางก็ไม่ได้ลำบาก คุณสามารถจ้างรถได้ค่ะหรือจะจ้างไกด์นำเที่ยว และถ้าหากใครกำลังกังวลเรื่องภาษา ไม่ต้องคิดมากเลยค่ะคนเขมรที่ไม่ว่าจะเป็นไกด์ หรือเด็กขายของรอบบริเวณนั้นสามารถพูดได้สามภาษาเป็นอย่างต่ำ ทำให้เห็นว่าเขมรไม่ใช่ประเทศด้อยพัฒนาเลยค่ะ และไม่ต้องกังวลเรื่องสกุลเงินค่ะ คุณสามารถใช้เงินไทยที่นั่นได้ หรือจะแลกเป็นดอลลาร์ก็ได้
การไปเมืองโบราณนั่นไม่ได้หมายความว่าการดำเนินชีวิตของคนรอบเมืองโบราณนั่นจะต้องเป็นแบบที่เราเข้าใจเสมอไป เพราะนอกจากเราจะได้เรียนรู้โบราณสถานแล้ว เรายังได้เรียนรู้คนในประเทศของเขาด้วย
บล็อกเกอร์มือใหม่คนนี้ขอแนะนำว่า ถ้าใครชื่นชอบความลี้ลับ สนใจในเมืองโบราณ หรือกำลังมองหาแหล่งท่องเที่ยวโบราณสถาน ก็ไม่ควรพลาดที่จะไปหลง มนต์ปราสาทบายนเลยค่ะ
☺️☺️☺️
27/08/2018
บรรณานุกรม
ชัยยศ อิษฎ์วรพันธุ์.(2544).โฉมหน้าแห่งบายน.สารคดี.16(191).129-132
เชษฐ์ ติงสัญชลี.(2551).ปราสาทบายน.25 สิงหาคม 2561.จาก
www.sac.or.th/databases/seaarts/th/architectureth/กัมพูชา/item/
140-ปราสาทบายน.html
พายุทราย พรายทะเล.(2560).ปราสาทหินบนดินแดนถิ่นกัมพูชา.25 สิงหาคม 2561.
จาก www.thai-traveller.com/ปราสาทหินบนดินแดนถิ่นกัมพูชา.
วิกิพีเดีย.(2561).ปราสาทบายน.25 สิงหาคม 2561.จาก https://th.wikipedia.org/
wiki/ปราสาทบายน
โอเชียนสไมล์.(ม.ป.ป.).ปราสาทบายน.25 สิงหาคม 2561.จาก
www.oceansmile.com/KHM/AngkorTom.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น